รถเข็นผู้ป่วย เลือกอย่างไรให้ใช่และชัวร์

องค์ประกอบเหล่านี้ เลือกรถเข็นผู้ป่วยทั้งทีต้องรู้ไว้

โครงสร้างหลักและการออกแบบ

โครงสร้างหลักส่วนใหญ่ในท้องตลาด จะผลิตจากเหล็กชุบกันสนิม สเตนเลส หรืออลูมิเนียมอัลลอย มีทั้งแบบผิวธรรมดา และแบบพ่นสีเคลือบอีกชั้นเพื่อความสวยงาม โดยวัสดุแต่ละชนิดจะมีน้ำหนัก ความแข็งแรง และความทนทานต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน

ขนาดและน้ำหนักโดยรวมของรถเข็นผู้ป่วย

น้ำหนักของรถเข็นสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการเข็น การบังคับเลี้ยว การยก การจัดเก็บ รวมถึงการเคลื่อนย้าย กรณีที่ต้องเดินทางไกลหรือไปต่างประเทศ

การรับน้ำหนักตัว

ควรเลือกรถเข็นผู้ป่วยให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของผู้นั่งขณะใช้งาน นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงความลึกและความกว้างของเบาะนั่งร่วมด้วย ผู้นั่งจะได้รู้สึกนั่งสบายไม่ปวดเมื่อย

ขนาดล้อ

ขนาดล้อของรถเข็นผู้ป่วยแบบเข็นมือ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

• ล้อใหญ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 นิ้วขึ้นไป นั่งสบายกว่า ยืดหยุ่นดีกว่า ผู้นั่งสามารถควบคุมและบังคับรถเข็นได้เอง เข็นง่าย ช่วยทุ่นแรงคนเข็นได้ดี แต่มีข้อเสียคือขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะกว่า แต่ปัจจุบันมีรถเข็นบางรุ่นแก้ปัญหานี้ด้วยการถอดล้อเข้าออกได้ สะดวกในการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บด้วย)
• ล้อเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย ดูไม่เป็นรถเข็นผู้ป่วย แต่ผู้นั่งไม่สามารถควบคุมและบังคับรถเข็นเองได้ ต้องมีคนเข็น ข้อเสียคือ หากเข็นบนพื้นผิวขรุขระผู้นั่งจะรู้สึกสะเทือนมากกว่ารถเข็นล้อใหญ่ จึงไม่เหมาะกับใช้บนทางขรุขระเป็นประจำ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่ร่างกายเปราะบาง หรือมีภาวะทุพพลภาพ

วัสดุโครงล้อ

มีความสำคัญมาก ส่งผลต่อความยืดหยุ่นขณะนั่ง แบ่งตามชนิดของวัสดุได้ดังนี้

• โครงซี่เหล็ก อายุการใช้งานสั้นกว่า แต่ความยืดหยุ่นจะมีมากกว่า เมื่อเข็นแล้วผู้นั่งจะรู้สึกนั่งสบาย เพราะตัวรถเข็นจะไม่โคลงเคลงไปมา เนื่องจากโครงสร้างของล้อมีความยืดหยุ่น จึงรองรับแรงกระแทกได้บางส่วน
• โครงพลาสติก ดีไซน์สวย ทันสมัย อายุการใช้งานยาวนาน แต่ยืดหยุ่นไม่ดีเท่ากับโครงซี่เหล็ก ทำให้นั่งสบายน้อยกว่า

ความกว้างและวัสดุของเบาะนั่ง รวมถึงที่พิงหลัง

วัสดุที่ใช้ผลิตเบาะนั่งและที่พิงหลังมีทั้งแบบผ้าตาข่ายไนลอน และหนังสังเคราะห์ แต่ละวัสดุจะมีความทนทานและการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ขนาดความกว้างของเบาะนั่ง รวมถึงความสูงของที่พิงหลังยังส่งผลต่อความสะดวกสบายของผู้นั่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องนั่งเป็นเวลานาน

การออกแบบโครงสร้างที่นั่งรถเข็นผู้ป่วย และที่พิงหลัง

นอกจากเรื่องขนาดและวัสดุแล้ว รถเข็นผู้ป่วยบางรุ่นได้ถูกออกแบบโครงสร้างเบาะแบบ Ergonomics ที่รับกับสรีระผู้นั่งมากขึ้น ช่วยกระจายแรงกดทับ นั่งสบาย นั่งได้นาน นอกจากนั้นยังมีรุ่นที่ออกแบบพนักพิงหลังให้ปรับเอนได้เล็กน้อย หรือฟังก์ชันปรับความรัดกระชับเฉพาะจุดของแผ่นหลัง ช่วยให้นั่งสบายมากกว่าเดิม

โครงสร้างแกนรับน้ำหนัก

ลักษณะเป็นตัว X ค้ำจุนอยู่ใต้เบาะที่นั่ง แบ่งเป็น 2 แบบคือ แกนเดี่ยว และแกนคู่ โดยแกนคู่จะรับน้ำหนักขณะนั่งได้มั่นคงและแข็งแรงกว่า รวมถึงราคาแพงกว่าด้วย

การพับเก็บรถเข็นผู้ป่วย

ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานเป็นหลัก หากต้องพกพารถเข็นออกนอกบ้านบ่อยๆ ควรเลือกยี่ห้อรถเข็นที่พับง่าย น้ำหนักเบา พับแล้วมีขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อให้พกพาสะดวก หรือจะเลือกรุ่นที่ถอดชิ้นส่วนออกได้ ก็จะช่วยทุ่นแรงผู้ยกได้เยอะเลยค่ะ

การรับประกันหลังการขาย

มีความสำคัญมาก ควรเลือกยี่ห้อรถเข็นที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริง หากกรณีสินค้ามีปัญหา หรือต้องการเปลี่ยนอะไหล่ ต้องสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบริการได้

เลือกรถเข็นผู้ป่วย ผู้นั่งและผู้เข็นสำคัญมาก

น้ำหนักตัว

รถเข็นผู้ป่วยในท้องตลาดสามารถรับน้ำหนักผู้นั่งได้สูงสุดอยู่ที่ 135 กิโลกรัม ก่อนซื้อรถเข็นควรถามพนักงานขายให้แน่ใจว่ารุ่นรถเข็นที่เลือก สามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดได้กี่กิโล เพื่อความมั่นใจควรพาผู้ใช้งานไปทดลองนั่งก่อนจะดีมากเลยค่ะ

ขนาดรอบสะโพกขณะนั่ง

หากวัดแล้วรอบสะโพกใหญ่ ควรเลือกรถเข็นที่มีเบาะนั่งกว้าง รองรับสะโพกขณะนั่งได้ดี

ความสูงของผู้นั่ง

ต้องสัมพันธ์กับความสูงของเบาะนั่ง โดยวัดจากที่วางเท้า ท่านั่งที่เหมาะสมคือเข่าไม่ชัน ด้านหลังของท่อนขาด้านบนแนบกับเบาะให้มากที่สุด (อาจต้องปรับความยาวที่วางขาช่วย หรือเสริมเบาะรองนั่งที่ไม่หนาเกินไป) และต้องพิจารณาความสูงของที่พิงหลังและที่วางแขนของรถเข็นร่วมด้วย หากอยู่ระดับเตี้ยเกินไป อาจทำให้ผู้นั่งเมื่อย หรือปวดเมื่อยตัวได้

อาการเจ็บป่วย หรือภาวะผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย

หากผู้นั่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คือไม่สามารถประคองตัวนั่งเองได้ หรือไม่สามารถย้ายตัวจากเตียงหรือเก้าอี้มายังรถเข็นได้เอง รถเข็นที่ใช้ต้องเป็นรถเข็นสำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน คือมีฟังก์ชันเบาะที่โอบรับ ปรับเอน เปิดที่วางแขน และเปิดที่วางเท้าได้สะดวก

ผู้เข็น

หากผู้เข็นเองมีแรงน้อย และต้องดูแลผู้ป่วยที่ตัวใหญ่น้ำหนักมาก ควรเลือกรถเข็นผู้ป่วยที่มีน้ำหนักและสัดส่วนเอื้อต่อผู้ดูแลด้วย

พิจารณาจากลักษณะการใช้งาน

ใช้งานภายในบ้าน หรือภายนอกบ้าน

รถเข็นที่เน้นใช้ภายในบ้าน ควรมีขนาดพอดี หมุนง่าย เข็นง่าย สามารถเข็นผ่านเส้นทางแคบๆ ในบ้านได้อย่างสะดวก

ใช้ทุกวัน หรือใช้ชั่วคราว

หากเป็นรถเข็นคันแรก และซื้อไว้เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน อาจมองหารถเข็นผู้ป่วยที่มีฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็น และราคาประหยัดเป็นอันดับแรก แต่ถ้าหากกำลังมองหารถเข็นที่ใช้งานทุกวัน ควรเป็นรถเข็นรุ่นที่มีฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์การใช้งานเป็นหลักค่ะ

ต้องพกพาออกนอกบ้านบ่อยๆ หรือไม่

หากการใช้งานส่วนใหญ่ต้องพกพาออกนอกบ้าน แนะนำให้เลือกรถเข็นผู้ป่วยที่มีความแข็งแรงพิเศษ พับได้ น้ำหนักเบา เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในรถค่ะ

พิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ

ยี่ห้อ และความน่าเชื่อถือ

ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อของไทยหรือต่างประเทศ ควรเลือกรถเข็นที่ผ่านมาตรฐาน อย. ของประเทศไทย หากสามารถเลือกยี่ห้อที่ผลิตมายาวนาน ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก ก็ช่วยให้มั่นใจ และอุ่นใจได้ค่ะ เพราะแบรนด์เหล่านี้มีการคิดค้น วิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพรถเข็น รวมถึงฟังก์ชันเล็กๆ น้อยๆ ที่ใส่ใจผู้บริโภค หากมีฐานการผลิตหรือศูนย์ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ก็จะยิ่งดีเลยค่ะ เพราะหากเกิดปัญหา หรือมีการส่งซ่อม เปลี่ยนอะไหล่ จะได้ประสานงานได้อย่างรวดเร็ว

งบประมาณ

รถเข็นผู้ป่วยแบบเข็นมือที่ชีวิตดีคัดสรรมาให้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3,600 บาท ถึง 45,000 บาท ต้องการฟังก์ชันแบบไหน เชิญแวะมาเลือกมาทดลองนั่ง พร้อมพูดคุยและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้เลยที่ร้านชีวิตดี บาย เอสซีจี ทั้ง 2 สาขา สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ชั้น 6 ใกล้สวนน้ำ (คลิกดูแผนที่) และสาขาศูนย์การค้าสีลมเอจ ชั้น 2 ใกล้ทางเชื่อม BTS สถานีศาลาแดง (คลิกดูแผนที่) หากไม่สะดวกเข้ามาที่ร้าน ก็สามารถคลิกสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ชีวิตดีออนไลน์ได้เลยค่ะ

ด้วยความห่วงใยจาก Chivit-D by SCG

ตารางเปรียบเทียบ