ปวดเท้า เจ็บฝ่าเท้า ทำยังไงดี

สาเหตุของการปวดเท้า

โรคเท้าแบน

เป็นภาวะที่เกิดจากการสูญเสียหรือความผิดปกติของส่วนโค้งของเท้า ทำให้เท้าไม่มีโค้งหรือมีน้อยมาก มักมีอาการปวดขณะยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ส่งผลต่อการทรงตัวและการเคลื่อนไหว

โรคเท้าเรียว

เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อที่เรียกว่า Plantar Fascia ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ต่อระหว่างส้นเท้าและหน้าเท้า ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงที่ส้นเท้า โดยเฉพาะในตอนเช้าหรือหลังจากนั่งหรือนอนเป็นเวลานาน ส่งผลต่อการเดินและการเคลื่อนไหวระหว่างวัน

หินปูนที่ส้นเท้า

เกิดจากการสะสมของแคลเซียมบริเวณด้านล่างของกระดูกส้นเท้า ทำให้มีอาการเจ็บหรือปวดเท้าขณะเดิน ควรพบแพทย์เพื่อรักษาและทำกายภาพต่อไป

นิ้วเท้าพลิกผิดรูป

เป็นภาวะที่กระดูกบริเวณข้างนิ้วเท้าใหญ่ หรือนิ้วเท้าอื่นๆ มีอาการผิดรูป ทำให้สวมรองเท้าลำบาก ปวดเท้าขณะเดินหรือเคลื่อนไหวนานๆ

นิ้วเท้าติดกัน

ภาวะที่นิ้วเท้าบางนิ้วติดกัน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการเดินหรือทำกิจกรรมระหว่างวัน แต่อาจส่งผลต่อความสวยงาม และความมั่นใจ

โรคเชื้อราที่เท้า

เกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนังบริเวณเท้า โดยเฉพาะระหว่างนิ้วเท้า ทำให้เกิดอาการคัน และผิวหนังแห้งลอก ควรหมั่นรักษาความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เชื้อกระจายไปยังบริเวณอื่น

ใส่รองเท้าไม่เหมาะสม

มักเป็นสาเหตุหลักที่หลายคนมองข้าม เพราะเวลาเลือกซื้อรองเท้ามักจะดูแค่ความสวยงาม เลือกตามรูปแบบที่เราชอบ แต่มักหลงลืมไปว่า รองเท้าคือสิ่งที่เราต้องใส่เป็นประจำ บางคู่ใส่เกือบทุกวัน เพราะฉะนั้นนอกจากความสวยงามแล้ว ควรต้องคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ผลิต หน้ากว้างรองเท้า ความนุ่มนวลเวลาสวมใส่ รวมถึงความคงทนในการใช้งานด้วยค่ะ

อาการและการวินิจฉัย

อาการปวดเท้าที่มักพบได้บ่อย ได้แก่ เจ็บ แสบ ปวด ร้อนชา หรืออาจสูญเสียความรู้สึกบริเวณที่ปวดได้ เพราะฉะนั้นควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอาการที่เป็นให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ

การรักษาและการป้องกัน

การรักษาทางการแพทย์สำหรับอาการปวดเท้า อาจเริ่มตั้งแต่การหยุดใช้งานเท้าหนักๆ การประคบเย็นบริเวณที่ปวด รวมถึงการใช้ยาและการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย ในขณะที่การป้องกันสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกรองเท้าสุขภาพที่เหมาะสมมาสวมใส่ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณเท้า หมั่นตรวจเช็คสุขภาพเท้า รวมถึงออกกำลังกายให้เหมาะสมตามวัยเป็นประจำทุกวันด้วยนะคะ

สรุป

การดูแลและรักษาสุขภาพเท้าเป็นสิ่งสำคัญ หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและรักษาให้เหมาะสมต่อไป ที่สำคัญควรหารองเท้าสุขภาพดีๆ มาใส่ด้วยนะคะ

ด้วยความห่วงใยจาก Chivit-D by SCG

อ้างอิง
healthline.com/health/foot-pain
siphhospital.com/th/news/article/share/606/Plantarfasciitis