นอนไม่หลับเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมหรือความเคยชินของเราเอง โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอนที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานเหนื่อยๆ มาทั้งวัน เราจึงใช้เวลาก่อนนอนไปกับการเล่นมือถือ เสพข่าวผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ดูหนัง ฟังเพลง และทำสารพัดสิ่งที่เราอยากทำ โดยลืมนึกไปว่าสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เราเกิดอาการนอนไม่หลับได้ หากอยากลดอาการนอนไม่หลับที่เป็นอยู่ ต้องติดตามเคล็ดลับปรับพฤติกรรมทั้ง 5 ข้อนี้เลยค่ะ รับรองคุณจะนอนหลับดีขึ้นอย่างแน่นอน

นอนไม่หลับ งดคุยโทรศัพท์ หรือเล่นมือถือก่อนนอนช่วยได้

นอนไม่หลับ ปรับด้วยการงดเล่นมือถือก่อนนอน

แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือจะไปกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินในร่างกายให้ลดต่ำลง ส่งผลให้เรานอนหลับยากหรือนอนไม่หลับได้ นอกจากนี้หลายท่านชอบอ่านข่าว หรืออ่านเนื้อหาที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเศร้า หดหู่ใจก่อนนอน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่รบกวนการนอนหลับได้เช่นกันค่ะ

นอนไม่หลับ ต้องปรับตัวเองให้ไม่นอนดึก เข้านอนให้ตรงเวลา

นอนไม่หลับ ปรับด้วยการไม่นอนดึก

การเข้านอนตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน จะช่วยทำให้จังหวะนาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) มีประสิทธิภาพ วงจรการหลับ-ตื่นเป็นปกติ ส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานประสานกันได้อย่างดีเยี่ยม ความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็ลดลง อารมณ์สดชื่นแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง มีสมาธิในการทำงาน เรียกได้ว่าแค่ปรับพฤติกรรมให้เข้านอนตรงเวลาก็สามารถลดอาการนอนไม่หลับได้แล้ว แถมยังดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วยค่ะ

ปิดไฟก่อนนอนทุกครั้ง

ปิดไฟก่อนนอนทุกครั้ง ลดอาการนอนไม่หลับได้

แสงไฟอาจรบกวนม่านตาของเราได้ ยิ่งในห้องนอนท่านไหนที่เปิดไฟสว่างจ้าเหมือนกลางวันยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว ส่งผลให้เรานอนไม่หลับได้ โดยเฉพาะแสง Blue Light ที่จะไปกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวขึ้นมาได้ พอเรานอนไม่หลับเราก็จะหากิจกรรมอื่นๆ ทำเพื่อให้ร่างกายง่วง แต่รู้มั้ยคะ? ยิ่งเราหากิจกรรมทำก่อนนอนมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะตื่นตัวมากเท่านั้น บางกิจกรรมเช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือเล่นมือถือก่อนนอน ยิ่งทำให้เรานอนดึกมากขึ้น คุณภาพการนอนของเราก็จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก

ไม่ดูหนังสยองขวัญก่อนเข้านอน

งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน ลดอาการนอนไม่หลับได้

เพราะจะไปกระตุ้นให้ระดับอะดรีนาลีน (Adrenaline) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ร่างกายจะตื่นตัวมากขึ้น หัวใจจะบีบตัวแรง ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ความดันเลือดสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการตาค้างหรือนอนไม่หลับได้นั่นเอง สำหรับคอหนังสยองขวัญแนะนำให้ดูช่วงเวลาอื่นจะดีกว่าค่ะ หลีกเลี่ยงการดูช่วงก่อนเข้านอนถ้าไม่อยากตื่นมาแล้วกลายร่างเป็นนกฮูก

งดเครื่องดื่มที่ทำให้นอนไม่หลับ

ไม่ดูหนังสยองขวัญก่อนนอน ลดอาการนอนไม่หลับได้

เช่น ชา กาแฟ และน้ำอัดลม เพราะมีคาเฟอีนที่จะไปกระตุ้นสมอง ทำให้เราไม่รู้สึกง่วง แนะนำให้ดื่มก่อนเที่ยง หรือเว้น 8 – 10 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายกำจัดสารคาเฟอีนให้หมดก่อน ซึ่งการขจัดคาเฟอีนออกจากร่างกายของแต่ละคนนั้นจะใช้เวลาต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอายุ รวมถึงประเภทของเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนั้นๆ ค่ะ

สรุป

นอนไม่หลับ ปรับได้จากพฤติกรรมก่อนนอน

อาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุปัจจัย หนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมที่เราชอบทำในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นความคุ้นชินที่เราอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะฉะนั้นทางแก้ไขก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ปรับพฤติกรรมก่อนนอนที่อาจส่งผลให้นอนไม่หลับ พฤติกรรมไหนทำบ่อยก็ค่อยๆ ลดลง เพื่อให้ร่างกายปรับตัวจนกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม อาการนอนไม่หลับก็จะค่อยๆ ดีขึ้นตามมาเอง เห็นมั้ยคะทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงตั้งเป้าหมายและลงมือทำ ง่ายๆ แค่นี้เองค่ะ

ด้วยความห่วงใยจาก Chivit-D by SCG
#ปกป้องอย่างมั่นใจเพื่อคุณและครอบครัว


อ้างอิง
https://www.sleepfoundation.org/bedroom-environment/blue-light
https://www.sleepfoundation.org/sleep-hygiene/healthy-sleep-tips
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=815#:~:text=%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5,%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86